วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สต๊าฟ ทริปเชียงคาน จ.เลย - เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์ 13-15 เม.ย. 2557 จ้า

   สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ มน ค่ะ เป็นเด็กจบใหม่ เรียนด้านโรงแรมและท่องเที่ยวมา งานที่เราอยากทำคงต้องเป็นด้านทัวร์ เพราะชอบในการผจญภัยมากกว่าที่จะอยู่โรงแรม
    แต่อาจจะเป็นโชคดีของเรา เพราะเราจบมาแล้วได้งานทำเลย ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่หยิบยื่นโอกาสให้กับเด็กตัวน้อยๆอย่างเรา ^^

....ตอนนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนเพราะออกทัวร์ แต่ถ้าถามว่าอยากไปไหนมากกว่ากัน ตอบได้เลย ว่า อยากออกทัวร์มากกว่า....


    ทริปนี้เป็นทริปแรกที่เริ่มทำงานกับบริษัท ดับเบิ้ล เอ็นจอย (ทัวร์เชียงคาน-เขาค้อ) ครั้งนี้พี่เค้าให้เราไปดูงาน แต่ครั้งหน้าเค้าจะให้เราออกเองคนเดียว ก่อนเดินทางก็แอบตื่นเต้นมาก เพราะโดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปทางภาคเหนือซักเท่าไหร่ ครั้งนี้ได้ไปก็บอกกับตัวเองว่าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด ลูกค้าที่เดินทางกับเราจะมีทั้งหมด 6 คน ซึ่งเป็นครอบครัวที่น่ารักมากๆ จุดนัดหมายของลูกค้าคือซอยลาซาน แต่เรากลัวไปไม่ทัน จึงออกเดินทางขึ้นรถตู้จากบ้านตั้งแต่5โมง ต่อด้วย BTS ไปลงลาซาน ถึงจุดนัดหมายก็ประมาน1ทุ่มโทรหาไกด์เปิ้ล พี่เปิ้ลก็ใกล้จะถึง พอเจอหน้าก็ทักทายสวัสดีทั้งพี่เปิ้ล และบังเมธี (คนขับรถ) จากนั้นลูกค้าก็โทรมา เตรียมตัวออกเดินทางกัน พอขึ้นรถ ก็มีแนะนำตัว และแจกขนมของว่างให้กับลูกค้าออกเดินทางสู่จังหวัดเลย......  ถึงแล้ววววววว จังหวัดซึ่งเดินทางไม่เคยถึง ฮ่าๆๆ. ตื่นๆๆๆ อันดับแรก แวะปั้มล้างหน้าล้างตากัน และพาลูกค้าเดินทางขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติภูเรือ อุณหภูมิตอนนี้ 17องศา อากาศหนาวมากเลยเมื่ออยู่บนยอดภูเรือ



 


                                         


   จากนั้นจึงแวะทานอาหารเช้า หน้าที่ของเรา คือเสริฟอาหารและน้ำให้กับลูกค้า และคอยดู ว่าลูกค้าต้องการอะไรเพิ่มมั้ย ....... เมื่อทานอาหารกันเสร็จก็พาลูกค้าไปไหว้พระที่วัดเนรมิตวิปัสสนา วัดนี้เป็นวัดที่มีพระอุโบสถขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ข้างในตกแต่งได้สวยงามมากๆ





        ภายในบริเวณวัดยังมีต้นสาละ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญมากในศาสนาพุทธ ทั้งตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน 


      แล้วต่อด้วยวัดพระธาตุศรีสองรัก สถานที่ซึ่งใครที่มาทัวร์ภูเรือ จะต้องไม่พลาด เพราะถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนเข้าวัดได้แจ้งลูกค้าว่า ไม่ควรสวมเสื้อผ้าสีแดงเข้า มีลูกค้าบางท่านใส่เสื้อออกสีแดงๆ จึงแนะนำให้เปลี่ยนก่อน ส่วนตัวเราก็ใช้เวลานี้ในการเสริช google เลย ว่าทำไมวัดนี้ถึงไม่ให้ใส่สีแดง ก็ได้ความมาว่าวัดนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในความรักใคร่ระหว่างประเทศไทย และประเทศลาว  "สีแดง"อาจเปรียบได้กับ "เลือด" ที่เป็นผลของการทำสงคราม คนโบราณจึงถือเรื่องนี้มาก จนปฏิบัติติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน



      หลังจากที่ลูกค้าได้เดินเวียนรอบพระธาตุเสร็จก็พามาดูพิพิธภัณฑ์ ผีตาโขน ที่วัดโพนชัย จากที่สังเกตุ ลูกค้าบอกเคยมาแล้ว ผิดกับเรา ที่ตื่นเต้นมากกกกก เพราะไม่เคยมา และยังได้สัมผัสบรรยากาศ ขบวนแห่วันสงกรานต์หน้าวัดอีกด้วย






      ถึงเวลา....รับประทานอาหารเที่ยงกันแว้ววววว. ก็ออกเดินทางไปยังร้านอาหาร ก็ทำการ เสริฟอาหารและน้ำให้ลูกค้า เมื่อทานอาหารกันเสร็จ ก็ถึงเวลาเข้าที่พัก ที่พักที่เราได้เข้าพักมีชื่อว่าบ้านละมุน อุ่นโขง ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำโขง เดินออกจากห้องพักก็สามารถชมบรรยากาศริมแม่น้ำโขงและสามารถมองเห็นฝั่งลาวได้ด้วย (ทัวร์เชียงคานส่วนใหญ่ของเรา จะให้พักริมแม่น้ำโขง) บรรยากาศดีเวอร์ ฟินน... หลังจากที่เช็คเรื่องกุญแจ เรื่องห้องเสร็จ ก็นัดเวลาลูกค้า เพื่อที่จะพาลูกค้าไปล่องเรือที่แม่น้ำโขง ..... เมื่อถึงเวลานัดหมาย ก็พาลูกค้าไปล่องเรือ สัมผัสบรรยากาศยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า และชมหมู่บ้านของไทยและลาว ริมฝั่งแม่น้ำโขง จากนั้นพาลูกค้าไปทานอาหารเย็น หลังทานอาหารเสร็จ ก็พาลูกค้าเข้าที่พัก และนัดหมายเวลาในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็ปล่อยตามอัธยาศัย......มนและไกด์เปิ้ลก็ได้เวลา ออกไปเดินเล่นตลาดเชียงคาน ยิ่งตกดึก คนก็ยิ่งครึกครึ้น ทั้งที่ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อน แต่คนก็ยังเยอะอยู่ แล้วถ้าช่วงปลายปี คนจะแน่นขนาดไหน? เดินกันไปเดินกันมา ก็ได้ของฝากกลับมากันคนละอย่างสองอย่าง




 เมื่อเดินกันจนเมื่อย ก็ได้เวลาเข้าที่พักอาบน้ำนอน... คืนนี้ราตรีสวัสดิ์.    

......หกโมงเช้าได้เวลาตื่น อากาศข้างนอกดีมากๆ จึง อาบน้ำและออกมาตักบาตรข้าวเหนียวกัน




  เมื่อลูกค้าและเหล่าทีมงานทานอาหารเช้าเสร็จ ก็ได้เวลาออกเดินทางสู่ภูทอก ซึ่งเป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นของเมืองเชียงคาน หลังจากนั้นปล่อยให้ลูกค้าได้เก็บภาพความประทับใจกัน




      หลังจากที่ออกจากภูทอกก็เดินทางกลับที่พัก เพื่อให้ลูกค้าได้อาบน้ำและเตรียมเก็บของ เพื่อออกเดินทางสู่จ.เพชรบูรณ์แวะรับประทานอาหารกลางวันกัน เมื่อเดินทางมาถึงจ.เพชรบูรณ์สถานที่ที่แรกที่จะพาไปคือ ภูทับเบิก ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ กว่าจะนั่งรถถึงจุดชมวิว ต้องดมยาดมกันเลยทีเดียว เพราะทางคดเคี้ยวมาก แต่ก็ไม่เสียแรงที่นั่งรถนานๆ เพราะข้างบนอากาศหนาวมาก วิวก็สวย น่ามากางเต้นท์นอนจริงๆ 




     เมื่อปล่อยให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปและเดินเล่นกันเสร็จ ก็ได้เวลาออกเดินทางไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และเดินเท้าไปยัง ผาชูธง ลานหินปุ่ม ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่งดงามมาก กว่าจะเดินถึง แอบหอบเหมือนกันนะเนี่ย - -



      เมื่อได้เวลาเดินเท้ากลับไปที่รถ ฝนก็ใกล้จะตก ทุกคนเลยรีบเดิน น่าแปลกใจมาก ที่ตอนกลับออกมาใช้เวลาเดินน้อยกว่าตอนเดินเข้าไปข้างในอีก ฮ่าๆๆ

      เมื่อทุกคนพร้อมกันที่รถตู้แล้ว ก็ได้เวลาพาลูกค้าเดินทางเข้าที่พัก ระหว่างทาง ไกด์เปิ้ลได้พาแวะร้านกาแฟ ชื่อว่า Route 12 แค่เห็นหน้าร้านก็รู้สึกชอบล่ะ เพราะส่วนตัวชอบการตกแต่ง สไตล์นี้อยู่แล้ว เลยคิดในใจว่า มันน่านั่งจิบเบียร์พร้อมฟังเพลงชิลๆ จริงๆ เปลี่ยนจากร้านกาแฟเป็นร้านเหล้าเหอะ จะมาทุกปีเลย 5555 แต่ก็ได้แค่คิดในใจ ฮ่าๆๆ  วันนี้ตอนเย็นฝนตกตลอดเลย เลยต้องรีบถ่ายรูปและรีบออกเดินทาง เพราะถนนเส้นนี้ยังปรับปรุงไม่เสร็จ ถ้าดึกมากไปจะเสี่ยงต่ออันตราย






        เดินทางถึงที่พักแว้วววววว ชื่อว่าพรสวรรค์ รีสอร์ท น่ารักมาก เป็นบ้านหลังๆ พอเข้าไปด้านใน ก็จะมีบันไดขึ้นไปยังห้องนอนที่อยู่ใต้หลังคา(แอบน่ากลัว) เลยแซวบังเมธี(คนขับรถ)ว่าสนใจมานอนมั้ย แต่บังชั่งกล้าปฏิเสธ ขอตัวนอนในรถตัวเองแทน และแกยังแซวว่า ระวังนะคืนนี้ จะมีเสียงมาจากห้องใต้หลังคา 5555555555 ขนลุกเลย




   จากนั้นก็พาลูกค้าไปทานอาหารเย็นที่ห้องอาหารของรีสอร์ทและนัดหมายเวลาในวันพรุ่งนี้.... คืนนี้พักผ่อนกันเถอะจ่ะZz....

....อรุณสวัสดิ์ยามเช้า ไม่อยากจะตื่นเลย เพราะมันหนาวมากกกกกกกกกกก   แต่เมื่อมองนาฬิกาแล้ว เราควรจะตื่นได้ละ เดี๋ยวจะไม่ทัน

    หลังจากที่ทานอาหารเช้ากันเสร็จ ก็แยกย้ายกันเก็บสัมภาระ ไกด์เปิ้ลจึงพาเดินไปยังจุดชมทะเลหมอกของรีสอร์ท มันสวยงามมากๆ หมอกเต็มท้องฟ้าเลย มองเห็นบ้าน เห็นสวน เห็นยอดเขา เต็มไปหมด อากาศก็ดี ขออยู่ที่นี่ต่อได้มั้ยอ่า คือชอบอ่า อากาศมันบริสุทธิ์มากๆ เลยคิดไว้ว่ายังไงก็ต้องกลับมาอีก




  บ้ายบายยยรีสอร์ท ออกเดินทางต่อ...

     วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสำหรับทริปนี้ สถานที่จะไปในวันนี้คือ  วัดผาซ่อนแก้ว วัดนี้ตกแต่งสวยมาก เค้าเอาพวกเครื่องชามเบญจรงค์มาประดับไว้เต็มวัดเลย





แถมยังมีนกยูงให้ดูกันแบบใกล้ๆอีก





       หลังจากเดินชมในวัดกันเสร็จ ก็ออกเดินทางสู่ทุ่งแสลงหลวง และ ทุ่งนางพญา แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าทั้งทุ่งแสลงหลวงและทุ่งนางพญาเข้าไปไม่ได้ เพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก  พวกเราจึงปรึกษาหารือกัน และได้ถามลูกค้าว่าอยากไปล่องเรือชมแมงกระพรุนน้ำจืดและผีเสื้อมั้ย ลูกค้าตกลงจึงได้พาไปล่องเรือ พร้อมกับมีไกด์ท้องถิ่นบรรยายตลอด แกก็จะมีมุกตลกๆให้เราขำกันบ้าง ถึงแม้ส่วนมากมุกจะแปกก็เหอะ 5555555   สภาพอากาศแบบนี้ทำให้ไม่เห็นแมงกระพรุน แต่ลูกค้าก็โอเคเพราะได้ไปดูฝูงผีเสื้อนับร้อยตัว  







        หลังจากล่องเรือกันเสร็จก็ได้เวลาแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านมาลี ซึ่งเป็นร้านที่เปิดมานานนับ 30 ปี ยังดีหน่อยที่ไกด์เปิ้ลโทรไปคอนเฟริมร้านอาหารก่อน เพราะลูกค้าเยอะมาก จนบางรายรอไม่ไหวต้องแคนเซิลและเปลี่ยนร้าน เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาล พนักงานจึงลางานกลับบ้านกันหมด แต่ทางโต๊ะเราก็ได้อาหารเร็ว ลูกค้าจึงไม่ต้องรออาหารนาน ตอนไปเสริฟอาหารมีลูกค้าโต้ะอื่นที่ไม่ใช่ลูกค้าเรา เรียกเราไปสั่งอาหาร แต่ก็ได้บอกไป ว่าไม่ใช่พนักงานค่ะ เป็นstaffทัวร์ คนที่ได้ยินก็ฮากันหมด(เราดูเหมือนเด็กเสริฟขนาดนั้นเลยหรอ = =")


      หลังจากทานอาหารกันเสร็จก็พาลูกค้าไปสักการะพระบรมธาตุกาญจนาพิเศษและแวะตำหนักเขาค้อ จากนั้นปล่อยให้ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย และเดินทางกลับกทม. แวะซื้อของฝากที่ร้านไร่กำนันจุล พอตกตอนเย็น ได้ปล่อยให้ลูกค้าทานอาหารเย็นกันตามอัธยาศัย ลูกค้าทุกท่าน ก็ได้พากันขอบคุณเราและไกด์ที่ได้ดูแลกันตลอดทริป ส่วนเราก็ขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจให้เรามาคอยบริการส่งมอบความสุข และก็ขอขอบคุณไกด์เปิ้ลที่สอนงานและเล่าประสบการณ์ในการออกทัวร์ของพี่เค้า และขอขอบคุณบังเมธี ที่ขับรถมาส่งหน้าบ้านเลย 
  ทุกคนประทับใจกันมาก จากนั้นมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ หลับกันยาวๆ พร้อมความประทับใจที่ไม่มีวันลืม




เครดิตข้อมูล :  ทัวร์เชียงคาน เขาค้อ

สต๊าฟ ทริปเขื่อนเชี่ยวหลาน กุ้ยหลินเมืองไทย จ.สุราษฎร์ธานี 03-05 พ.ค. 2557

      สวัสดีค่ะ ทริปนี้เป็นทริปที่สองแล้วนะคะ (ทัวร์เขาสก) แต่ครั้งนี้จะเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ 2 คัน ซึ่งเราจะอยู่คันที่ 2 มีไกด์นุชและไกด์โอม เป็นไกด์ประจำรถ จากที่เคยฝึกงานเมื่อปีที่แล้วกับบริษัททัวร์บริษัทหนึ่ง พี่เค้าก็ให้ลองมาเป็นสต๊าฟรถบัส จำได้ว่าตอนนั้นไปลาว-ใต้ และสิมิลัน  ก็ทำให้เราพอรู้งานนิดหน่อย ครั้งนี้มีโอกาสได้ออกทัวร์รถบัส เราก็จะเอาประสบการณ์ที่เคยออกทัวร์มาใช้ให้คุ้มค่ากับที่เคยฝึกงานมา

ทริปนี้เดินทางไปเขาสก เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานีค่ะ

     วันนี้เป็นศุกร์ที่ 02 พ.ค 57 ต้องออกเดินทางตอนเย็น เมื่อถึงเวลาก็เตรียมของเพื่อเดินทางไปรับลูกค้าที่บริษัท นามยืนยง ชิปปิ้ง จำกัด แถวรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง เมื่อไปถึงก็เกิดปัญหานิดหน่อย เพราะบริเวณนั้นจะไม่มีที่จอดรถสำหรับรถบัสเลย พื้นที่จะน้อยมาก เลยให้รถบัสไปจอดตรงเลียบคลอง และคุยกันว่า ถ้าลูกค้ามาครบและเก็บกระเป๋ากันเสร็จ ก็ให้โทรหาคนขับ เพื่อให้วนรถมารับ   เมื่อลูกค้ามากันครบก็ถึงเวลาออกเดินทาง สิ่งแรกที่เราทำคือเสริฟน้ำเปล่าให้ลูกค้า เพราะอากาศร้อนมากกกกกกกกก

หลังจากนั้นไกด์นุชก็เรียกเราให้ไปแนะนำตัวกับลูกค้า ไกด์นุชบอกเรา ว่าให้มนแนะนำตัวก่อน จากนั้นต่อด้วยพี่โอม และพี่นุช แต่พี่โอมบอกว่า ไม่เอา แกแนะนำไปก่อน ชั้นจะปิดท้ายเอง พอพี่โอมได้แนะนำตัวเท่านั้นแหละ ฮากันทั้งรถเลยยย (จริงๆแล้วแกไม่ใช่ผู้ชาย )ฮ่าๆๆ แค่เริ่มแรกก็สนุกและ ไม่ต้องคิดถึงวันต่อๆไปเลย ว่าจะสนุกแค่ไหน เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จ พวกเราก็คุยกันว่า คนไหนเจ้าของบริษัทน้าา ก็หากันไม่เจอซักที จนเลิกคุยเรื่องนี้กัน หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ลูกค้านอนพักผ่อน...Zz...

 


ภาพบรรยากาศบนรถบัส

       เมื่อถึงสถานที่ที่แรกที่เราต้องแวะคือ ร้านอาหาร นิวรสทิพย์ ตอนนี้หิวมากกก เมื่อลูกค้านั่งกันครบ เหล่าทีมงานก็ได้เวลาเสริฟอาหารและเสริฟน้ำให้กับลูกค้า ไกด์นุชบอกว่า ยังไม่ถึงเวลากินของเรา ให้เราคอยเช็คดูว่ามีอะไรหมดมั้ย แล้วคอยเติมให้ลูกค้า จนลูกค้าบอกไม่เติม เราถึงจะเดินไปนั่งกินข้าวที่โต๊ะประจำของทีมงาน เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง คันของมนก็แบ่งหน้าที่กัน มนก็จะมีหน้าที่นับจำนวนลูกค้าและคอยช่วยพี่โอมแจกขนมและของว่าง เมื่อออกเดินทางต่อ ทางเราก็มีหมอนรองคอกับถุงกันน้ำให้กับลูกค้า เพราะต้องเดินทางไกลอาจจะเมื่อยคอได้ พี่นุชและพี่โอมก็สาธิตการเป่าหมอนรองคอให้ดู พี่นุชกับพี่โอมก็เล่นมุกแหย่ลูกค้า จนบนรถบัสคันนี้มีแต่เสียงหัวเราะ ^^ จากนั้นก็ถึงเวลาพักผ่อนยาวๆ......

      ตอนนี้เป็นเวลาตีสามกว่าๆ ลูกค้าทุกคนลืมตาพร้อมกัน เหมือนจะรู้ว่า ถึงเวลาอาหารมื้อดึกแล้ว ฮ่าๆๆ
ร้านที่เราแวะ ชื่อว่า ร้านข้าวต้มคุณสาหร่ายเป็นร้านใหญ่ๆมีทั้งโซนอาหาร โซนของฝาก และโซนห้องน้ำ บริเวณรอบๆก็จะเต็มไปด้วยบรรดารถบัสมากมายที่มาเที่ยวแบบเรา ขอบอก ว่าข้าวต้มที่นี้อร่อยมาก ไม่รู้ว่าอร่อยจริงๆหรือว่าหิวกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ซัดข้าวต้มไปสี่ถ้วย กะกินเผื่อพรุ่งนี้เช้าเลย ฮ่าๆๆๆ
พอขึ้นรถก็หลับยาวเลย


.... แสงแดดแยงตาละ เช้าแล้วววววว  อรุณสวัสดิ์ยามเช้า ถึงแล้วว เขื่อนรัชชประภา เห็นหมอกด้วยสวยมากๆเลยอากาศก็ดี วิวก็สวยยย แล้วก็ปล่อยให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปเดินเล่นกันตามอัธยาศัย พอสังเกตุดีๆ ลูกค้าทุกคนใส่เสื้อลายดอกกันหมดเลยยยย เฮ้ยยย น่ารักอ่าา ดูกลมเกลียวกันมากเลย





       หลังจากถ่ายรูปรวมกันเสร็จก็พาลูกค้าไปทานอาหารเช้า และเตรียมตัว ไปล่องเรือชมกุ้ยหลินเมืองไทย น้ำเป็นสีฟ้าสวยมากๆๆๆๆๆ คิดว่าเป็นน้ำทะเลซะอีกกก








มีแวะให้อาหารปลาตะเพียนหางแดงด้วยนะ มาเป็นฝูงเชียววว



        หลังจากนั้นก็นั่งเรือเพื่อไปชมถ้ำปะการัง เมื่อถึงฝั่ง จะต้องเดินเท้า ไป-กลับ 3กิโล เพื่อไปล่องแพร  แดดร้อนมาก ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะดำหรือไม่ดำ ฮ่าๆๆแต่ถือว่าคุ้มนะ เพราะบรรยากาศ ทั้งน้ำในเขื่อน รอยยิ้มของลูกค้า ก็ทำให้เรายิ้มได้







      เมื่อถึงถ้ำประการัง ก็มีไกด์ท้องถิ่นนำเที่ยว ข้างในถ้ำมีหินงอกหินย้อย เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเต็มไปหมดเลยย ตอนอยู่ข้างในรู้สึกเย็นๆแปลกๆ  มืดด้วย แอบขนลุกอ่า 55555
 









     เมื่อเดินกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาล่องเรือกลับเพื่อไปทานอาหารกลางวันที่แพรเพลินไพร เมื่อลูกค้าทานกันเสร็จ ก็ถึงเวลาเราบ้างละ อาหารอร่อยมากโดยเฉพาะเมนูปลาทอด กินจนเหลือแต่ก้าง ฮ่าๆๆ
 หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เล่นน้ำกันตามอัธยาศัย มนกับปอย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานกันที่บรฺิษัท ก็หาที่นั่งเล่น นั่งคุยกัน พร้อมเอาเท้าจุ่มน้ำ เริ่มเคลิ้มละ ฮ่าๆๆ ความง่วงเข้าครอบงำทันที แต่คุยกันไปคุยกันมา ก็ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว เพราะพายุจะมา
      ตอนนั่งเรือกลับ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น พายุเข้า ฝนตกจ้าาา คลื่นและลมเริ่มแรง เรือเริ่มโคลงเคลง ลูกทัวร์เริ่มกลัวกัน จึงได้แจกถุงพลาสติกให้ลูกค้าคนละใบ เพื่อคลุมศีรษะ จากนั้นก็นั่งเรือมาถึงฝั่งจนได้ ฝนตกหนักมากด้วย ไม่ต้องคิดถึงสภาพเลย ลูกหมาตกน้ำชัดๆ  จากนั้นก็พาลูกค้าเดินไปขึ้นรถ เราได้บอกกับลูกค้าว่า เดี๋ยวจะแจกถุงพลาสสติกเพื่อไว้รองที่นั่งนะ แต่ลูกค้าทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ต้อง พี่ยืนดีกว่า เดี๋ยวก็ถึง เบาะรถมันจะเลอะเอาาา  โหยย ประทับใจอ่า ลูกค้าเป็นกันเองมาก จากนั้นพี่นุชก็ถือไมค์ พูดคุยทักทายกับลูกค้าตลอดเส้นทาง   อ่อ ตอนนี้รู้แล้วนะว่าใครเป็นเจ้าของบริษัท พี่เค้าชื่อคุณมุ่ย อยู่บัสเราเนี่ยแหละ นั่งข้างหน้าสุดด้วย 55555555

พี่โอมก็แซวคุณมุ่ย ว่า "พี่มุ่ยเป็นกันเองมากเลย ไม่ถือตัวด้วย โอมเลยมองไม่ออกว่าพี่มุ่ยเป็นบอสใหญ่"

พี่มุ่ยเลยแซวกลับว่า "นี่ชั้นไม่มีราศีของความเป็นเจ้าบริษัทเลยหรอยะ 5555"

 ฮากันทั้งรถ จนเดินทางมาถึงที่พักล่ะ ก็ได้เวลาทำภารกิจส่วนตัวกันและ ออกมาทานข้าวเย็นกัน ที่ครัวคุณตุ๊ก ซึ่งอยู่ข้างๆ  รีสอร์ทที่พัก อาหารมื้อนี้ก็มีเมนูปลาอีกเช่นเคย อร่อยซะด้วย เมื่อทานกันเสร็จ ทางบริษัทของลูกค้า ก็มีกิจกรรมเล็กๆน้อยๆ ในการสร้างความสัมพันธ์กัน เจ้าของบริษัทนี้เค้าทุ่มมาก ถึงขนาดแจกเงินให้พนักงานทู้กคน. จากนั้นก็แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย. Zz

....อรุณสวัสดิ์ค่ะ วันนี้เป็นชุดธีมลายดอก โปรแกรมแรกวันนี้คือไปให้อาหารปลากัน




   จริงๆแล้วในโปรแกรม จะเป็นการพาไปดูดอกบัวผุด แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ดอกบัวผุดจึงไม่มี เลยพาลูกค้าไปให้อาหารปลาและทำบุญแทน

     เมื่อตกกลางวันมื้อเที่ยงวันนี้  ได้พาลูกค้าไปทานที่เขาสก รีเวอร์ลอร์จ อยากแนะนำที่นี่มาก เพราะ อาหารก็อร่อย พนักงานก็บริการดีมาก เติมอาหารกันจน มนคิดในใจว่า ห่อกลับบ้านได้มั้ย มันอร่อยมากอ่า ฮ่าๆ จากนั้นก็เดินทางเข้าที่พัก คือ ภูผาและลำธาร รีสอร์ท ซึ่งเป็นรีสอร์ทในฝันของใครหลายๆคน พอไปถึง ...... ทึ่งมาก ชอบมาก รีสอร์ทอยู่บนเขา สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้สวยงามมาก แล้วในตอนนั้นฝนตกด้วย จึงได้เห็นหมอก ท่ามกลางป่าเขา หน้าที่ของเราก็ช่วยขนกระเป๋าไปให้ลูกค้าที่หน้าห้อง ซึ่งทางเนี่ย มันเป็นเขา ต้องเดินขึ้นเดินลง ถึงกับหมดแรงเลย ฮ่าๆๆๆ




     เมื่อได้เวลาเราเข้าที่พักแล้ว มนกับปอยนอนด้วยกัน ก็ผลัดกันอาบน้ำ นัดลูกค้าไว้ประมาณหนึ่งทุ่ม แต่นัดทีมงานไว้ห้าโมง ตอนแรกนอนดูทีวีกับปอย สักพักนึง เผลอหลับกันไปทั้งคู่ พอตื่นมา ก็นั่งหัวเราะกัน ว่าทำไมเรานอนพร้อมกันเนี่ย ฮ่าๆๆ สงสัยจะเพลียยยมาทั้งวัน



    พอตกเย็น ก็ทานอาหารเย็นที่รีสอร์ท ทางเราก็ได้จัดเค้กไว้เซอไพร์วันเกิด คุณบุหงา ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท แถมทางลูกค้ายังเชียร์ให้คนสุปรีซึ่งเป็นสามีคุณบุหงา ให้ทั้งคู่หอมแก้มกัน ภาพบรรยากาศอย่างกับ งานแต่งงาน 555555 ลูกค้าทุกท่านแฮปปี้กันมาก

...ถึงเวลาเข้าที่พัก ลูกค้าน่าจะยังไม่นอนกัน เพราะเห็นซื้อของกิน ซื้อเบียร์กันเป็นลัง 555 (แบ่งบ้างสิ)   คืนนี้ฝันดีค่ะ...Zz

...อรุณสวัสดิ์ยามเช้า....

   วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการออกทัวร์ครั้งนี้ เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จก็ได้เวลาพาลูกทัวร์แวะไหว้พระ ที่วัดสวนโมก ก็จะมีพระสงฆ์ คอยให้ธรรมะในการดำเนินชีวิต ว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไร เราจะต้องใจเย็นๆ อย่าไปกังวลมันมาก ปล่อยมันไปตามสัจธรรม และสอนอะไรพวกเราอีกมากมาย  จากนั้นจึงแวะสักการะพระธาตุไชยา
        และออกเดินทางแวะซื้อของฝากกัน ลูกค้าได้ทั้งสตอ ไข่เค็ม อินทผาลัม กล้วยเล็บมือนาง ซื้อกันมาเต็มรถ บนรถจึงเต็มไปด้วยกลิ่น ของกิน 5555555555

   เมื่อใกล้จะถึงกทม. ทางไกด์นุชและไกด์โอม ก็ได้ให้เราออกมาพูดความรู้สึกในการออกทัวร์ครั้งนี้ เราก็พูดไปตามความรู้สึก ว่าทริปนี้ เป็นทริปที่สนุกมากก ลูกค้าน่ารัก กันเอง ถ้ามีโอกาส ครั้งหน้าคงได้เจอกันอีก...........

จากนั้นเดินทางกลับกทม. และไปส่งลูกค้าที่หน้าบริษัท.... ทริปนี้จบอย่างสวยงาม 

...ทริปนี้มีความประทับใจหลายๆอย่าง โดยเฉพาะลูกทัวร์ มีความเป็นกันเองมาก สนุกสนานเฮฮา
...ไกด์ทั้งสอง ทั้งพี่นุชและพี่โอม ทั้งคู่เป็นไกด์ที่มีคุณภาพมาก บรรยายสาระความรู้ ตลกเฮฮา ตลอดเส้นทาง จนลูกค้าติดใจ 
...อาหารการกิน ทริปนี้อาหารถูกใจ และอร่อยมาก จนไกด์ถึงกับแซวลูกค้าว่า ขอตั้งชื่อทริปนี้ ว่า ทริป กิน-นอน 55555 


.....................................................................................................
เครดิตข้อมูล :  ทัวร์เขาสก