วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Part 2 ทริปนี้ ที่เชียงราย


ต่อจาก Part 1 นะคะ


       อรุณสวัสดิ์ตอนเช้าค่ะ วันนี้ตื่นเช้ามาก เพราะต้องเดินทางไปเชียงราย และต้องขึ้นดอยแม่สลองอีก กว่าจะถึง ก็เกือบๆ แปดโมงแล้ว อากาศเย็นมากกกกกกกกกกกกกก พอถึงบนดอยเริ่มไม่ค่อยคุ้นล่ะ เพราะเริ่มมีภาษาเพื่อนบ้านแทรกเข้ามาเรื่อยๆ 5555 ปัจจุบันชุมชนชาวจีนบนดอยแม่สลอง มีชื่อว่า หมู่บ้านสันติคีรี ตั้งอยู่ที่ ความสูงจาก ระดับน้ำทะเล เฉลี่ย 1,200 ม. อากาศเย็นสบายตลอดปี รายได้หลัก มาจากการปลูกชาอู่หลง บ้านสันติคีรี เป็นชุมชน ขนาดใหญ่ มีประชากร ประมาณ 800 หลังคาเรือน มีทั้งวัด โบสถ์คริสต์ มัสยิด ระบบไฟฟ้า โทรศัพท์ และธนาคารทหารไทย ที่ให้บริการอย่างสมบูรณ์แบบบนดอยนี้จะมีหลายเชื้อชาติ เช่น อาข่า ลีซอ คนไทยเชื้อสายจีน และไทยใหญ่ จะสังเกตได้จากการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และภาษาที่โชว์ตามร้านค้าข้างถนน



      สัญลักษณ์ของที่นี่คือ ชา  ดังนั้นอาชีพหลักของที่นี่ส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยปลูกชาและพืชผักเมืองหนาว



ไร่ชา 101



ดอกของต้นชา


การคัดเลือกชาของชาวบ้าน

        ถึงเวลา Coffee Break แว้ววว แนะนำร้านนี้นะคะ ชื่อร้าน Sweet Maesalong เปิดมา 8  ปีแล้วค่ะ รสชาติกาแฟและเค้ก ขอเน้นว่าอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ต้องมาลอง


ภาพนี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับกาแฟและเค้กเลย 55555



จากนั้นพวกเราก็ได้แวะเข้าไปถ่ายรูปที่วัดสันติคีรี แอบสงสัยว่าวัดมีแค่นี้หรอ แต่มีป้ายว่าเดินขึ้นเขาไปอีก 300 เมตร แต่พวกเราก็ไม่ได้เอะใจ


     จนเมื่อถ่ายรูปกันเสร็จแล้วกำลังจะขับรถลงจากดอย ก็มีป้าย พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี อยู่ข้างทาง จึงสงสัยว่าวัดเมื่อกี้กับพระบรมธาตุอันเดียวกันหรือเปล่า??  พวกเราจึงได้ขับรถขึ้นไป ทางค่อนข้างคดเขี้ยวมาก สายฝนก็ยังคงเทลงมาเรื่อยๆ 

      พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า และยังเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของดอยแม่สลอง


เข้าไปชม ข้างในกันนะคะ


ใครเข้าไปแล้วตั้งเหรียญไม่ได้ นี่ไม่โปรเลยนะ 5555




แวะทานชา และพูดคุยกับพนักงานที่นี่ พนักงานค่อนข้างยิ้มแย้มแจ่มใส และชงชาให้เราชิมหลายๆ กลิ่น โดยไม่มีท่าทีหวงของเลย เราก็ชิมกันไปเรื่อยๆ 5555555 



ได้เวลาออกเดินทางต่อค่ะ สถานที่ต่อไป ที่เราจะไป คือ ดอยวาวี 

      ดอยวาวีเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ของชาวจีนฮ่อ บนดอยวาวี ยังมีความเป็น เอกลักษณ์ อีกอย่างหนึ่ง ที่ชวนให้หลงใหล  นั่นก็คือ เสน่ห์แห่ง "ชา" ที่ชาวบ้านบนดอยวาวี ปลูกกันเป็น อาชีพหลัก เพราะที่นี่มีชาวจีนฮ่อ หรือจีนยูนนานมาอาศัยอยู่ ยุคเดียวกับกองพล 93 ที่ ดอยแม่สลอง ส่งผลให้บนดอยวาวีนิยมปลูกชากันมาก ชาบนดอยวาวี มีทั้งชาพันธุ์พื้น เมืองสายพันธุ์ "อัสสัม" ชาสายพันธุ์ไต้หวันอย่างชิงชิง เบอร์ 12, 13 และชา "อู่หลง" ที่มีความโดดเด่น เป็นอย่าง ยิ่ง เพราะดอยวาวี ถือเป็นแหล่งปลูกชาอู่หลงแห่งแรกของเมืองไทย 

รีสอร์ทที่นี่ค่อนข้างน้อย เราจึงใช้เวลาอยู่บนดอยไม่นาน

      จากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางต่อไปยังดอยช้าง โดยมี GPS นำทางอยู่ ทางที่คุณ GPS แนะนำ มันคือการอ้อมโลกค่ะ เส้นทางคดเคี้ยวไปมา ฝนก็ตก ถนนลื่น กว่าจะถึงบนดอย ก็เกือบมืดเลยทีเดียว
เมื่อถึงบนดอย พวกเราก็ไม่สามารถไปสำรวจที่ไหนได้ เพราะฝนตก และไม่สะดวกเท่าไหร่ 

      แต่บนดอยช้างนี้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี สิ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ กาแฟ สภาพอากาศจึงเหมาะสำหรับปลูกกาแฟพันธุ์อราบิก้า ทำให้ได้ผลผลิตดี ทางศูนย์ติดตั้งเครื่องคั่วบดกาแฟ เพื่อแปรรูปวัตถุดิบ มีกาแฟที่คั่วบดแล้วให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิม รวมถึงแปลงปลูกผลไม้เมืองหนาว เช่น เกาลัด มะคาเดเมียนัต บ๊วย ท้อ พลับ พลัม ฯลฯ



      หลังจากลงจากดอยช้าง ก็แวะทานข้าวเย็น และ ได้หาที่พักในคืนนี้ แต่ทุกอย่างไม่ได้เรียบง่ายเสมอไป พวกเราค้นใน google จนเจอกับที่พักที่หนึ่ง (ขอไม่เอ่ยนาม) ซึ่งรูปในเน็ต ดูสวยงามมาก พวกเราจึงโทรสอบถาม ซึ่งพนักงานได้บอกว่า ที่พักห่างจากถนนใหญ่ไม่ถึงกี่โล ทางข้างใน ไม่มีการก่อสร้าง อยู่ใกล้ๆกับน้ำตกแห่งหนึ่ง เมื่อพวกเราเข้าไป สิ่งที่เราเจอคือ ถนนดินโคลน และขอย้ำ!!! ว่าไกลมาก กว่าจะถึง ทุกคนเริ่มท้อแต่ก็ไม่ถอย จนในที่สุดก็หาที่พักจนเจอ ซึ่งอยู่ลึกมากกก ไฟข้างทางก็ไม่มี สิ่งแรกที่เห็นเมื่อมาถึง คือพนักงานแต่งตัวแบบพื้นบ้าน เห้ยย แอบน่ากลัวอ่า T^T จึงขอเค้าเข้าไปดูข้างใน เมื่อก้าวขาเข้าไปในตัวบ้าน ขนลุกทันที ข้างในบ้านประดับตกแต่งไปด้วยไม้เก่าๆ รูปที่ติดฝาผนัง เป็นรูปเจ้านางสมัยโบราณ ของตกแต่งบ้านจะเน้นทำด้วยไม้ จึงเพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีก ฝนก็ตกไม่หยุด พวกเราก็ไม่กล้านอนกัน ก็เลยต้องขอโทษเค้าและขับรถออกมา ทุกคนตกอยู่ในภวังค์ บนรถเงียบมาก ไม่รู้ว่าเพราะเหนื่อย ง่วง หรือกลัวกันแน่ พอหลุดมาจากทางไปรีสอร์ท ทุกคนถอนหายใจพร้อมกัน !!!!! คือมันน่ากลัวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก O.O

      คืนนี้พวกเราจึงได้ที่พักที่ อ.ฝาง 
แต่ขอบอก คืนนี้ มนนอนไม่หลับจ้าาาา ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เล้ยยย แต่ยังไง เราก็ต้องทนให้ได้ เพราะ เจ้านาย ได้บอกไว้ ว่าถ้ากลัวผี แล้วจะเป็นไกด์ได้ยังไง เพราะไกด์ต้องนอนคนเดียวนะ ???
แสดงว่า เจ้านายไม่กลัว งั้นว่างๆ จะชวนไปบ้านผีสิงนะคะ 55555555555

คืนนี้หลับฝันดีค่ะ กู้ด ไนท์ Zzzz....


...ขออภัยนะคะ ที่ไม่ได้ลงรูปร้านอาหาร และที่พัก เนื่องจากเป็นความลับทางบริษัทค่ะ... 

อ่านต่อ Part 3 เลยจ้า







เครดิตข้อมูล :  ทัวร์ดอยแม่สลอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น